Blog แห่งการเรียนรู้ สรุปรวบรวมเรื่องการตลาด ทรัพยากรมนุษย์ ภาวะผู้นำ ทฤษฎีองค์กร เว็บแห่งการอ่าน คิด วิเคราะห์ สังเคราะห์ มาประยุกต์ใช้ในการดำเนินชีวิตหรือธุรกิจของตน เว็บแห่งรวบรวมมาจากหลายๆแห่ง จากหลายๆท่านผู้รู้
วันศุกร์ที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2560
สโลแกนโฆษณา
“ รักคุณเท่าฟ้า ”
“ รสชาติของคนรุ่นใหม่ ”
“ กินไม่ได้แต่เท่ ”
“ เมืองไทยของเรา เบียร์ไทยของเรา ”
เมื่อได้ยินข้อความข้างต้น ผู้อ่านคงพอจะเดาได้ว่าเป็นการโฆษณาสินค้าหรือบริการอะไรบ้าง เนื่องจากทั้งสี่ข้อความข้างต้น ได้กลายเป็นคำพูดติดปากและติดหูผู้บริโภคไปแล้ว “รักคุณเท่าฟ้า” เป็นสโลแกนของสายการบินไทย ที่ค่อนข้างออดอ้อนและเรียกคะแนนนิยมจากผู้ใช้บริการได้อย่าง น่าทึ่ง “รสชาติของคนรุ่นใหม่” ก็ถือว่ายังคงความเป็นเอกลักษณ์ของเป๊ปซี่ ที่เน้นกลุ่มวัยรุ่นได้อย่างดี ในขณะที่สโลแกน “กินไม่ได้แต่เท่” ก็สามารถสร้างความหวือหวาให้กับตลาดน้ำหอมระงับกลิ่นกายอย่างโฟกัส ได้อย่างไม่น่าเชื่อ และตามกันมาติดๆกับสโลแกน “เมืองไทยของเรา เบียร์ไทยของเรา” ที่ใช้คำเรียบง่าย แต่ให้ความรู้สึกของความเป็นเจ้าของร่วมกัน อย่างเบียร์สิงห์ เหล่านี้ล้วนแต่เป็น ปรากฏการณ์ทางภาษาที่ช่วยสร้างพลังทางการตลาดให้กับสินค้าและบริการแต่ละประเภท ได้ตามความ มุ่งหมายของผู้ประกอบการ
“Slogan” ( ออกเสียง สโล’เกิน ) ทำหน้าที่เป็นคำนาม ไทยเรารับเอาคำนี้เข้ามาใช้แบบทับศัพท์ โดยออกเสียงให้กลมกลืนกับคนไทย เป็น “สโลแกน” ( ออกเสียง สะ-โล-แกน ) พจนานุกรมอังกฤษ-ไทย ของ ดร.วิทย์ เที่ยงบูรณธรรม ( 2541: 803 ) กล่าวไว้ว่า Slogan หมายถึง คำขวัญ , คติพจน์ , คำโฆษณา , เสียงร้องรวมพล , เสียงร้องรบ ไทยเราค่อนข้างคุ้นกับความหมายแรก คือ “คำขวัญ” มากกว่าความหมายอื่นๆ
รองศาสตราจารย์ ดร. เสรี วงษ์มณฑา ( 2540 : 147 ) กล่าวไว้ว่า อันที่จริง คำว่าสโลแกนนี้ ไม่ควรแปลว่า “คำขวัญ” เพราะจะไปซ้ำกับคำว่า Motto น่าจะเรียกว่า “คำย้ำ” มากกว่า ผู้เขียนเห็นด้วยกับประเด็นนี้ เพราะสโลแกนทำหน้าที่ตอกย้ำในจุดขายของสินค้าและบริการให้ชัดเจน ประกอบกับเชื่อมโยงงานโฆษณาต่างประเภท ต่างชิ้น ต่างวาระ และต่างสื่อ ให้เป็นแผนรณรงค์เดียวกัน เช่น เป๊ปซี่ ใช้สโลแกนว่า “รสชาติของคนรุ่นใหม่” ในทุกๆสื่อโฆษณานั่นเอง
Russell and Lane ( 1990 : 449 ) กล่าวถึงความหมายของสโลแกนไว้ว่า ตามความหมายของศัพท์ดั้งเดิมหมายถึง การโห่ร้อง เมื่อทำการต่อสู้หรือทำสงคราม ( Battle Cry ) แต่สโลแกนในการโฆษณา หมายถึง ข้อความสั้นๆ ที่สรุปความคิดกลัก ( Theme ) เกี่ยวกับประโยชน์ของผลิตภัณฑ์ เพื่อให้ง่ายต่อการจดจำ ประเด็นนี้ชี้ชัดว่า ผู้ประกอบการ หรือจะเรียกให้ง่ายๆตามภาษาตลาดว่า “เถ้าแก่” นั้น ควรจะใส่ใจกับการคิดสโลแกนสินค้าและบริการของตนเองให้เอื้อต่อการจดจำและจูงใจผู้บริโภค ซึ่งถือเป็นหลักปฏิบัติหลักหนึ่งในการจัดทำแผนธุรกิจ
สโลแกนแบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ สโลแกนที่เน้นทางด้านสถาบัน ( institutional ) และ สโลแกนที่เน้นทางด้านการขาย ( hard-sell ) ดังรายละเอียดต่อไปนี้
1. สโลแกนที่เน้นทางด้านสถาบัน ( institutional ) ได้แก่ คำขวัญที่คิดสร้างสรรค์ขึ้นมาเพื่อสร้างภาพพจน์ในทางที่ดี ( company image ) ให้กับสถาบัน รองศาสตราจารย์พิบูล ทีปะปาล ( 2543 : 129 ) ให้ข้อสังเกตว่า คำขวัญประเภทนี้ปกติจะไม่ค่อยเปลี่ยนแปลง ดังนั้นบริษัทส่วนใหญ่จึงนิยมใช้คำขวัญนี้อย่างต่อเนื่องในทุกชิ้นของงานโฆษณา ตัวอย่างของสโลแกนที่เน้นด้านสถาบัน เช่น
“ คุ้มค่าทุกนาที ” ( โทรทัศน์ ช่อง 3 )
“ นำคุณค่าสู่สังคมไทย ” ( โทรทัศน์ ช่อง 5 )
“ ทีวีเพื่อคุณ ” ( โทรทัศน์ ช่อง 7 )
“ สังคมอุดมปัญญา ” ( โทรทัศน์ ช่อง 9 )
“ ทางเลือกใหม่ของปวงชน” ( โทรทัศน์ ช่อง 11 )
“ ปึกแผ่นเป็นแก่นสาร บริการเป็นกันเอง ” ( ธนาคารกรุงศรีอยุธยา )
“ บริการทุกระดับประทับใจ ” ( ธนาคารกสิกรไทย )
“ เพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน ” ( ธนาคารกรุงเทพ )
“ มั่นคงด้วยรากฐาน บริการด้วยน้ำใจ ” ( ธนาคารไทยพาณิชย์ )
2. สโลแกนที่เน้นทางด้านการขาย ( hard-sell ) ได้แก่คำขวัญที่คิดสร้างสรรค์ขึ้นเพื่อประโยชน์ในแง่การแข่งขันทางการค้า โดยระบุลักษณะพิเศษของผลิตภัณฑ์และบริการ เพื่อสร้างแรงจูงใจในการซื้อและใช้บริการ ซึ่งแยกได้เป็น 2 ประเภท ดังนี้
2.1 สโลแกนบอกจุดขาย ( selling point ) และบอกจุดเด่นของสินค้า ( product differentiation ) ตัวอย่างเช่น
“ ความงามที่จีรัง” ( พรม คาร์เปท)
“ งานศิลป์แห่งเวลา ” ( นาฬิกา หลุยส์มอเรส )
“ สุขภัณฑ์ดีไซน์สไตล์ยุโรป” ( สุขภัณฑ์ เลาเฟน)
“ ห่วงใยไม่เคยหลับ” ( เครื่องซักผ้า อีฟ )
2.2 สโลแกนบอกคุณสมบัติของกลุ่มเป้าหมาย ( target group characteristic or personality ) เป็นสโลแกนซึ่งบอกถึงคุณสมบัติเด่นของกลุ่มเป้าหมาย ตัวอย่างเช่น
“ เอกลักษณ์ของเอกบุรุษ ” ( เครื่องแต่งกาย แอร์โรว์)
“ คุณค่าที่ดิฉันคู่ควร ” ( เครื่องสำอาง ลอรีอัล แพรีส)
“ ดีไซน์ของคนมีสไตล์ ” ( กระเบื้อง คอตโต้ )
“ ลูกผู้ชายตัวจริง ” ( เครื่องดื่มชูกำลัง กระทิงแดง )
“ เชิดชูนักสู้ผู้ยิ่งใหญ่ ” ( เครื่องดื่มชูกำลัง คาราบาวแดง )
การเขียนสโลแกนโฆษณา มีลักษณะการเขียนที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวต่างไปจากงานเขียนประเภทอื่นๆ เนื่องด้วยสโลแกนที่คิดขึ้นนั้นจะต้องสร้างจุดเด่นให้กับตัวสินค้าและบริการ ศัพท์ที่ใช้ต้องสะดุดตา ติดหู และต้องใจผู้บริโภค ผู้ประกอบการรายใหม่มักจะคิดไม่ตกเกี่ยวกับสโลแกนโฆษณาดังกล่าวนี้ บางรายคิดสโลแกนสินค้าได้ในขั้นตอนสุดท้ายของการทำแผนธุรกิจ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เพราะสโลแกนสามารถกำหนดทิศทางการโฆษณาสินค้าและบริการ โดยเฉพาะการเขียน ข้อความโฆษณา ( body copy ) ที่จำเป็นต้องนำเอาสโลแกนมาเป็นประเด็นหลักในการเขียน แล้วจึงทำการขยายความในประเด็นรองต่อไปนั่นเอง
คุณสมบัติหรือองค์ประกอบของสโลแกนที่ดี ( elements of a good slogan ) โดยใช้หลัก 6 ส. มีดังนี้
ส. 1 สั้น กระชับ ได้ใจความ กล่าวคือ ใช้ถ้อยคำน้อย แต่กินความมาก ทั้งนี้เพื่อให้สื่อความหมายได้รวดเร็ว ดังตัวอย่าง เช่น
“ อย่างไรก็โค้ก ” ( เครื่องดื่มน้ำอัดลม โค้ก )
“ องครักษ์ พิทักษ์ไม้ ” ( สีทาไม้ เบเยอร์ วูดสเตน )
“ ทนถึงทายาท ” ( ก๊อกน้ำ Ideal Standard )
“ ครบเครื่อง เรื่องครัว ” ( ผลิตภัณฑ์เทคโนแก๊ส )
ส. 2 สรรคำมีน้ำหนัก กล่าวคือ ใช้คำพูดที่หนักแน่น มีความแรงในสาระ ดังตัวอย่าง เช่น
“ อย่างหนา คือตราช้าง ” ( กระเบื้อง ตราช้าง )
“ เค็มแต่ดี ” ( ยาสีฟัน ซอลส์ )
“ กินไม่ได้แต่ เท่ ” ( น้ำหอมระงับกลิ่นกาย โฟกัส )
“ ภาพคมกริบ เสียงคมชัดบาดใจ ” ( เครื่องเล่น ซัมซุง ดีวีดี )
ส. 3 สาระสำคัญเป็นหนึ่ง กล่าวคือ สโลแกนที่คิดขึ้นต้องมีใจความสำคัญหรือเป้าหมายเพียงประการเดียว เพราะการเขียนสโลแกนที่มีจุดเน้นมากกว่าหนึ่งประเด็น จะทำให้ผู้บริโภคสับสนใน จุดยืนที่ไม่ชัดเจนของสินค้าและบริการ ตัวอย่างสโลแกนที่มีใจความสำคัญเพียงประเด็นเดียวเช่น
“ รักษ์น้ำ รักดูราเกรส” ( สุขภัณฑ์ดูราเกรส : เน้นการประหยัดน้ำเป็นจุดขาย)
“ หอมกรุ่นจากเตาทุกวัน” ( ขนมปังฟาร์มเฮ้าส์ : เน้นความสดใหม่เป็นจุดขาย)
“ ลืมได้เลยว่าเคยมีรังแค ” ( แชมพูเฮดแอนด์โชว์เดอร์ : เน้นการขจัดรังแคเป็นจุดขาย )
“ ความสุขที่คุณดื่มได้ ” ( เบียร์คลอสเตอร์ : เน้นความสุขจากการดื่มเป็นจุดขาย )
ส. 4 สัมผัสคล้องจอง กล่าวคือ มีการเล่นคำหรือเล่นสัมผัสคล้องจอง เพื่อเพิ่มความสะดุดตา สะดุดใจ และจดจำได้ง่าย อาจใช้การซ้ำคำหรือเล่นสัมผัสคล้องจองก็ได้
- การซ้ำคำ ดังตัวอย่างเช่น
“ อร่อยทุกรส ปราดเปรียวทุกวัน ” ( อาหารแมว ฟริสกี้ส์ )
“ ซิงเกอร์เย็นจัด ในราคาที่คุณเย็นใจ ” ( ตู้เย็น ซิงเกอร์ )
- การเล่นสัมผัสคล้องจอง ดังตัวอย่างเช่น
“ ของมีครบ ระบบมีพร้อม ” ( ผลิตภัณฑ์ ไทยยิบซั่ม )
“ กรอบเกลียว เคี้ยวโปเต้ ” ( ขนมขบเคี้ยว โปเต้ )
ส. 5 สม่ำเสมอในจังหวะอ่าน กล่าวคือ มีจังหวะในการอ่านที่ดี เพราะสโลแกนที่ใส่ใจกับจังหวะที่สม่ำเสมอกันจะทำให้ง่ายต่อการจดจำและทำให้เกิดความสนุกสนานได้อีกด้วย จังหวะที่ดีในการอ่านคือ 3:3:3 , 2:3:2 , 3:2:3 , 3:3 , 3:4:4 หรือ 4:5 ดังตัวอย่างเช่น
“ ความสง่างาม ท่ามกลางธรรมชาติ ” ( บ้านกาญจน์กนกเชียงใหม่ : จังหวะอ่าน4:5 )
“ ยุงแขยง แมลงขยาด เมื่ออาทขยับ ” ( ผลิตภัณฑ์กำจัดยุงอาท : จังหวะอ่าน 3:4:4 )
“ นุ่มละไม ปลอดภัยทุกวัยผิว ” ( สำลีตรารถพยาบาล : จังหวะอ่าน 3:2:3 )
“ ถึงเวลา ฮาโมนี ” ( สบู่ฮาโมนี : จังหวะอ่าน 3:3 )
ส .6 สื่อความด้วยชื่อ กล่าวคือ ควรมีชื่อสินค้าอยู่ในสโลแกนด้วย เพื่อช่วยในการจดจำและไม่เกิดความสับสนกับสินค้าอื่น ดังตัวอย่างเช่น
“ ฟันไม่เสียว ใช้อีโมฟอร์ม ” ( น้ำยาบ้วนปาก อีโมฟอร์ม )
“ ทิพ เคล็ดลับความอร่อย ” ( น้ำมันพืช ทิพ )
“ มิสทีนมาแล้วค่ะ ” ( เครื่องสำอาง มิสทีน )
“ ฮานามิ ข้าวเกรียบรวยเพื่อน ” ( ข้าวเกรียบ ฮานามิ )
นอกจากจะให้ความสำคัญกับการใช้ภาษาในการคิดสโลแกนตามหลัก 6 ส. แล้ว ผู้ประกอบการควรจะคำนึงถึง หลักการใช้จิตวิทยาในการโฆษณาด้วย เพราะจะส่งผลต่อระบบของการตลาด ว่าจะประสบความสำเร็จ หรือล้มเหลว การเขียนคำโฆษณาในแง่จิตวิทยานี้ ควรเลือกใช้ คำ วลี หรือประโยคที่ผู้บริโภคอ่านแล้วทำให้เกิดความรู้สึกดังต่อไปนี้
1. เกิดปฏิกิริยาตอบสนอง ซึ่งจะต้องเลือกใช้คำ หรือข้อความที่มีการจูงใจให้ผู้พบเห็นอยากซื้อสินค้าและบริการในทันที ดังตัวอย่างเช่น
“ เราให้มากกว่าคำว่า ถูก ” (ซูเปอร์สโตร์ บิ๊กซี)
“ ใกล้เมือง แต่เงียบสงบ ” (บ้านแสงอุษา เชียงใหม่)
“ ชิ้นเดียว ไม่เคยพอ ” (มันฝรั่งทอดกรอบ เลย์)
“ ถ้าคุณชอบยีนส์ เราคือ Mc ” (กางเกงยีนส์ Mc)
2. เกิดการรับรู้ หมายถึง การเลือกใช้ถ้อยคำ สำนวน เพื่อให้ผู้บริโภครับรู้และเข้าใจในตัวสินค้าและบริการ ว่ามีการปรับปรุงใหม่ เพิ่มปริมาณ ประหยัดกว่า ปลอดภัยกว่า สะดวกสบายกว่า หรือประสิทธิภาพดีกว่า เพื่อให้ผู้บริโภคสนใจในผลิตภัณฑ์นั้น ดังตัวอย่างเช่น
“ใหม่Firestone สวย นุ่มนวล ปลอดภัย มั่นใจเต็มประสิทธิภาพ” (ยางรถยนต์Firestone)
“ สดใหม่ ในเทสโก้โลตัส ” (ซูเปอร์สโตร์ โลตัส)
“ ซูเปอร์โคท ซูเปอร์คุ้ม ” (สีทาบ้าน ซูเปอร์โคท)
“ Mobile from Advance ประหยัดยกทีม คุ้มทุกรุ่น ” (โทรศัพท์มือถือ AIS)
3. เกิดจินตนาการ คือ การเลือกใช้ภาษาและข้อความ เพื่อให้ผู้บริโภคเกิดจินตนาการ อันจะส่งผลให้มีการเปลี่ยนทัศนคติใหม่ เกิดความนิยมชมชอบ และสนใจที่จะเลือกใช้สินค้าและบริการ ดังตัวอย่างเช่น
“ Pringles เปิดเมื่อไหร่ มันได้มากกว่าใจคิด ” (มันฝรั่ง Pringles)
“ Mido ประติมากรรมแห่งโลกเวลา ” (นาฬิกา Mido)
“ เผยโฉมหนุ่มมาดใหม่ให้โลกรู้ด้วย Guy laroche ” (เครื่องแต่งกาย Guy laroche)
“ ใหญ่เต็มตา ตื่นเต้นระทึกใจ ด้วย โซนี่ ทีวีโปรเจคเตอร์ ” (เครื่องเสียงโซนี่)
สโลแกนโฆษณาสามารถนำไปใช้กับสื่อโฆษณาได้ทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นสื่อสิ่งพิมพ์ โปสเตอร์ วิทยุ โทรทัศน์ หรืออินเตอร์เน็ท มีสินค้าและบริการมากมายที่สร้างผลตอบแทนอันยิ่งใหญ่ให้กับผู้ประกอบการ ด้วยความเด่นดังของสโลแกนโฆษณา ที่ช่วยให้ผู้ใช้สินค้าและบริการจดจำชื่อ สินค้านั้นได้ และทำการบอกต่อๆกัน (word of word)
“เลิศคุณธรรม ล้ำปัญญา สร้างคุณค่าคนสมบูรณ์”
สโลแกนของวิทยาลัยฟาร์อีสเทอร์น สถาบันการศึกษาแห่งสหัสวรรษ สำหรับหนุ่มสาว ยุคใหม่ คือตัวอย่างการสร้างสโลแกนที่ดี ดีเด่นทั้งถ้อยคำ (words) และถ้อยความ (meaning) จำง่าย โดดเด่น และแตกต่าง เข้าหลัก “ภาษาดีมีชัยไปกว่าครึ่ง”
*************************************************
_________________________________________________________________
สโลแกนโฆษณา : ภาษาดีมีชัยไปกว่าครึ่ง
ประเภท : บทความ
โดย : อภิชัย(สิระ) สมนาม
บรรณานุกรม
กาญจนา มีศิลป์วิกกัย. การจัดการโฆษณา. กรุงเทพฯ : ศูนย์เทคโนโลยีทางการศึกษา ฝ่ายเทคโนโลยี
มหาวิทยาลัยศรีปทุม , 2539.
ทิพวรรณ วิระสิงห์ . การใช้ภาษาในการโฆษณา . พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ : มหาวิทยาลัยรามคำแหง ,
2532.
พิบูล ทีปะปาล. การโฆษณาและการส่งเสริมการขาย . กรุงเทพฯ : สถาบันราชภัฎบ้านสมเด็จเจ้าพระยา ,
2543.
ภาณุพงศ์ อุดมศิลป์ . ภาษาไทยเพื่อการอาชีพ 2 . กรุงเทพฯ : เอมพันธ์ , 2545.
วิทย์ เที่ยงบูรณธรรม . พจนานุกรมอังกฤษ – ไทย .กรุงเทพฯ : ซีเอ็ดยูเคชั่น , 2541.
ศิริวรรณ เสรีรัตน์ . การโฆษณาและการส่งเสริมการตลาด . กรุงเทพฯ : บริษัท A.N การพิมพ์ ,2540.
เสรี วงษ์มณฑา. การโฆษณาเชิงปฏิบัติการ . กรุงเทพฯ : บริษัท A.N การพิมพ์ ,2540.
_________. การโฆษณาและการส่งเสริมการขาย . กรุงเทพฯ : บริษัท A.N การพิมพ์ ,2540.
Russell , J.Thomas and Lane , W.Ronald . Kleppner ’ s Advertising Procedure. 11 th ed.
Englewood Cliffs, N.J .: Prentice - Hall , Inc.,1990.
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น